บ้านมือหนึ่ง vs บ้านมือสอง ซื้อแบบไหนคุ้มกว่า?

การวางแผนซื้อบ้านสักหลังหนึ่ง โดยเฉพาะคนซื้อบ้านหลังแรกที่ไม่เคยมีประสบการณ์ซื้อบ้านมาก่อน อาจยังลังเลอยู่ว่าจะเลือกบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสองดี บางคนก็บอกว่า “ซื้อบ้านมือหนึ่งไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องรีโนเวท” แต่บางคนก็แย้งว่า “ซื้อบ้านมือสองดีกว่า ค่ารีโนเวทไม่เท่าไหร่ยังไงก็ถูกกว่า แถมเลือกทำเลดีๆ ได้อีกด้วย” แล้วแบบไหนหล่ะ? ที่ตอบโจทย์และเหมาะกับตนเองมากที่สุด

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อด้อย บ้านมือหนึ่ง vs บ้านมือสอง

ข้อดีของ บ้านมือหนึ่ง บ้านใหม่ไฉไลสุดๆ

คุณจะได้บ้านใหม่พร้อมอยู่ ไม่เคยผ่านการอยู่อาศัยมาก่อน สภาพบ้านและวัสดุต่างๆ จึงใหม่ แข็งแรง ทนทาน และไม่ต้องเสียเงินเพื่อรีโนเวทเพิ่มเติม ยกเว้นในกรณีที่คุณอาจอยากต่อเติมบางส่วน เช่น ห้องครัวหลังบ้าน ฯลฯ

1. ได้บ้านใหม่ ไม่ต้องรีโนเวทเพิ่ม
2. กู้สินเชื่อบ้านผ่านง่ายกว่า
3. การออกแบบที่ทันสมัย
4. วางแผนตกแต่งบ้านได้ง่ายกว่า
5. มีประกันหลังการขาย

ข้อด้อย ของบ้านมือหนึ่ง

1. ราคาสูง ต่อรองยาก
2. ไม่ได้เห็นของจริงก่อนซื้อ
3. ไม่พร้อมเข้าอยู่

ข้อดี ของบ้านมือสอง ที่ไม่เป็นรองใคร

1. ราคาถูกกว่า
2. ได้เช็กบ้านด้วยตัวเอง
3. ต่อรองราคาได้
4. พร้อมเข้าอยู่
5. มีทำเลที่ดีกว่า
6. ได้บ้านตรงปก
7. วัสดุมีคุณภาพที่ดีกว่า
8. เห็นสภาพแวดล้อมจริง ไม่ต้องรอลุ้น

ข้อด้อย ของบ้านมือสอง

1. เสียเงินค่ารีโนเวทบ้าน
2. กู้สินเชื่อบ้านไม่ได้เต็มวงเงิน
3. จุดบกพร่องอื่นของบ้านที่เจ้าของเก่าไม่ได้บอก

การซื้อบ้านในฝันหนึ่งหลัง ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง ล้วนมีข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป เราแนะนำให้คุณเลือกบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวได้อย่างครบถ้วนมากที่สุด และเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการสร้างประวัติการเงินที่ดีไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การอนุมัติง่ายขึ้น

ดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน-คอนโด (ล่าสุด! มกราคม ปี 2567)

ใครกำลังมองหาสินเชื่อบ้านล่าสุด ปี 2567! เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน-คอนโด ปี 2567 (เดือนมกราคม) นี้กันเลย ขอสินเชื่อบ้านมือสอง #รีไฟแนนซ์ #รีไฟแนนซ์บ้าน #สินเชื่อบ้าน #รีไฟแนนซ์คอนโด #ดอกเบี้ยบ้าน

ธนาคารไหนดี ถึงจะได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด ใครอยากรู้ Tooktee.com รวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบให้แล้ว แล้วถ้าสนใจ สามารถติดตามยังเว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากธนาคารแต่ละแห่งได้เลยนะคะ

8 ธนาคารอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน-คอนโด เฉลี่ย 3 ปีต่ำ

1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี = 3.00%
2. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 5.03%
3. ธนาคารกรุงไทย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.70%
4. ธนาคารกรุงเทพ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.72%
5. ธนาคารออมสิน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.80%
6. ธนาคารยูโอบี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 5.00%
7. ธนาคารกสิกรไทย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 9.05%
8. ธนาคารไทยพาณิชย์ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = ขึ้นอยู่กับโปรโมชันแต่ละเดือน

ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นการรวบรวมมาจากเว็บไซต์ของธนาคารเท่านั้น หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดสินเชื่อบ้านเพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของธนาคารผู้ออกสินเชื่อบ้านนั้น ๆ ได้เลยนะคะ

ใครไม่อยากพลาดความรู้ดี ๆ อย่างนี้ กดติดตามเพจ TOOKTEE AGENT PRO ไว้เลย 
ความรู้บ้านมือสอง ขายบ้านมือสอง ซื้อขายบ้านมือสอง บ้านมือสอง
สนใจซื้อบ้านมือสองราคาพิเศษ หรือเป็นนายหน้าอสังหาฯ บ้านผ่านระบบ Tooktee
สอบถาม Line : http://line.me/ti/p/~@tooktee หรือ โทรศัพท์ : 0-2295-3905 ต่อ 125 

Checklist ซื้อบ้านมือสอง ต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?




 | แชร์บทความนี้

 บ้านมือสอง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการอยากได้บ้านสักหลัง แต่การซื้อบ้านมือสองนั้นแตกต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งอยู่มาก เพราะแค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า “บ้านมือสอง” แน่นอนว่าคำว่า “มือสอง” นั้นต้องผ่านการใช้งานมาแล้วอย่าง แน่นอน หรือพูดอีกนัย คือ การซื้อบ้านที่ไม่ได้ซื้อมาจากผู้พัฒนาโครงการ แต่ซื้อต่อมาจากคนที่ซื้อมาแล้วก่อนหน้า แต่จะผ่านมือมามากน้อยขนาดไหนก็ต้องตรวจเช็คกันให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง วันนี้ TOOKTEE เลยนำ Checklist เช็คสภาพบ้านก่อนตัดสินใจซื้อมาให้เช็คกัน
 


Checklist ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง

1.    รู้ประวัติข้อมูลของบ้าน

สิ่งที่เราควรเช็คให้ดีเลยคือประวัติข้อมูลของบ้านว่าเข้าข่ายตามข้อ Checklist เหล่านี้หรือไม่

  • บ้านอยู่ในพื้นที่เวนคืนเพื่อสร้างทางด่วนหรือไม่ ? สามารถตรวจสอบได้ที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
  • บ้านอยู่ในพื้นที่เวนคืนตัดถนนหรือไม่ ? ในเขตกรุงเทพฯสามารถตรวจสอบกับกรุงเทพมหานครหรือกรมโยธาธิการ กรณีต่างจังหวัดสอบถามได้จากเทศบาลจังหวัดหรือกรมทางหลวง ขึ้นอยู่กับประเภทถนนว่าเป็นทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด หรือทางหลวงท้องถิ่น
  • ตรวจสอบการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ว่ามีการค้างชำระแล้วหรือไม่ ? โดยการนำสัญญาจะซื้อจะขายไปตรวจสอบได้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงหากเป็นโครงการจัดสรรต้องพิจารณาเรื่องค่าส่วนกลางร่วมด้วย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ จากนิติบุคคลของโครงการนั้น ๆ
  • ตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ ? โดยสามารถนำสัญญาจะซื้อจะขายไปตรวจสอบได้ที่สำนักงานเขตที่ดินในเขตนั้น ๆ
  • ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่
  • มีการต่อเติมเพิ่มจากแบบที่ได้รับอนุญาตหรือไม่?

หากสำนักงานเขตมาตรวจสอบพบความผิด ทางเขตมีอำนาจให้เรารื้อถอนบ้านได้

.

2.    ตรวจสอบสภาพทางกายภาพของบ้านมือสอง

  • ตรวจสอบภายนอกและภายในบ้าน

            –    วิเคราะห์สภาพบริเวณบ้านว่าดินมีการทรุดตัวหรือไม่

            –    ตรวจเช็คว่าบริเวณข้างเคียงมีการขุดบ่อหรือสระใกล้กับตัวบ้านจนอาจจะทำให้บ้านทรุดได้หรือไม่

            –    ตรวจสอบผนังฝ้าเพดานของบ้านว่ามีการชำรุดหรือเวลาหน้าฝนมีการบวมพองหรือไม่

  • ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร

            –    ตรวจสอบว่าโครงสร้างเสาและคานสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยขนาดไหน ตั้งฉากกับพื้นหรือไม่ไม่แอ่นเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

            –    ตรวจเช็ครอยร้าวในคานและเสา หากพบว่าเป็นรอยร้าวที่เกิดจากเนื้อคอนกรีตซึ่งเป็นโครงสร้างข้างในของคานและเสา ไม่ใช่แค่รอยร้าวของปูนฉาบที่ผิวหน้า ควรปรึกษาหรือสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • ตรวจสอบงานระบบ

            –    ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภคต่างว่ามีปัญหาหรือไม่ เช่น ระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า ว่ามีการเสื่อมสภาพหรือระบบมิเตอร์ยังทำงานได้อย่างปกติดีหรือไม่

.

3.    สภาพบ้านโดยรวม + ราคาและเงื่อนไข

        เรื่องที่ต้องคำนึงมากๆเลยอีกหนึ่งข้อ  คือ สภาพบ้านและราคา มีความคุ้มค่าเหมาะสมที่จะซื้อจะขาย สามารถตรวจเช็คราคาบ้านได้ที่ http://www.tooktee.com ได้ ส่วนในเรื่องสัญญาซื้อขายเงื่อนไขแต่ละข้อได้อ่านครบถ้วนชัดเจนแล้วหรือไม่เพราะการซื้อบ้านมือสองนั้นต้องศึกษาให้มากกว่าการซื้อบ้านมือหนึ่งเป็นอย่างมาก  ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะโดน “ย้อมแมวขาย” ได้ นอกจากนี้ การซื้อบ้านมือสองต้องระวังเรื่องเอกสารต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ อาทิ

  • สัญญาจะซื้อจะขาย โดยตรวจสอบชื่อของผู้ขายว่าเป็นชื่อเดียวกับเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือไม่
  • กรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินโดยต้องมีการตรวจสอบข้อมูลโฉนดที่ดินว่ามีชื่อผู้ใดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
  • ขอบเขตของที่ดินตามโฉนด อาจจะไม่ใช่การดูด้วยตาเปล่า ควรต้องมีการจ้างเจ้าหน้าที่รังวัดมาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนได้

        รวมไปถึงข้อตกลงที่ไม่ได้อยู่ในสัญญาและอาจจะตกหล่นไปได้ เช่น ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ขายจะโอนให้แก่ผู้ซื้อ เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหลากหลายประเด็นให้พิจารณา แต่อย่างไรก็ตามทางที่ดีที่สุดควรศึกษาและตรวจเช็คในเรื่องต่าง ๆ ให้ดีก่อนที่จะตกลงปลงใจ ที่จะซื้อขายเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดตามมาทีหลัง ก่อนที่จะซื้อขายกันควรจะทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งสองฝ่ายและควรขอข้อมูลติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายด้วย เพื่อป้องกันการผิดพลาดและปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง

สามารถ หาบ้านมือหนึ่งและมือสองได้ที่ www.tooktee.com

นอกจากนั้นสามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่าน  Line : https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w
หรือ โทรศัพท์ : 0-2295-3905 ต่อ 125 


บ้านมือสอง

บ้านมือสอง

ซื้อบ้านมือสอง

บ้านมือสองราคาถูก

ขายบ้าน

mี่มา:https://www.tooktee.com/article/?cid=322

Checklist ซื้อบ้านมือสอง ต้องตรวจสอบอะไรบ้าง?


 บ้านมือสอง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการอยากได้บ้านสักหลัง แต่การซื้อบ้านมือสองนั้นแตกต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งอยู่มาก เพราะแค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า “บ้านมือสอง” แน่นอนว่าคำว่า “มือสอง” นั้นต้องผ่านการใช้งานมาแล้วอย่าง แน่นอน หรือพูดอีกนัย คือ การซื้อบ้านที่ไม่ได้ซื้อมาจากผู้พัฒนาโครงการ แต่ซื้อต่อมาจากคนที่ซื้อมาแล้วก่อนหน้า แต่จะผ่านมือมามากน้อยขนาดไหนก็ต้องตรวจเช็คกันให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง วันนี้ TOOKTEE เลยนำ Checklist เช็คสภาพบ้านก่อนตัดสินใจซื้อมาให้เช็คกัน
 


Checklist ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง

1.    รู้ประวัติข้อมูลของบ้าน

สิ่งที่เราควรเช็คให้ดีเลยคือประวัติข้อมูลของบ้านว่าเข้าข่ายตามข้อ Checklist เหล่านี้หรือไม่

  • บ้านอยู่ในพื้นที่เวนคืนเพื่อสร้างทางด่วนหรือไม่ ? สามารถตรวจสอบได้ที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
  • บ้านอยู่ในพื้นที่เวนคืนตัดถนนหรือไม่ ? ในเขตกรุงเทพฯสามารถตรวจสอบกับกรุงเทพมหานครหรือกรมโยธาธิการ กรณีต่างจังหวัดสอบถามได้จากเทศบาลจังหวัดหรือกรมทางหลวง ขึ้นอยู่กับประเภทถนนว่าเป็นทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด หรือทางหลวงท้องถิ่น
  • ตรวจสอบการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ว่ามีการค้างชำระแล้วหรือไม่ ? โดยการนำสัญญาจะซื้อจะขายไปตรวจสอบได้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงหากเป็นโครงการจัดสรรต้องพิจารณาเรื่องค่าส่วนกลางร่วมด้วย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ จากนิติบุคคลของโครงการนั้น ๆ
  • ตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ ? โดยสามารถนำสัญญาจะซื้อจะขายไปตรวจสอบได้ที่สำนักงานเขตที่ดินในเขตนั้น ๆ
  • ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่
  • มีการต่อเติมเพิ่มจากแบบที่ได้รับอนุญาตหรือไม่?

หากสำนักงานเขตมาตรวจสอบพบความผิด ทางเขตมีอำนาจให้เรารื้อถอนบ้านได้

.

2.    ตรวจสอบสภาพทางกายภาพของบ้านมือสอง

  • ตรวจสอบภายนอกและภายในบ้าน

            –    วิเคราะห์สภาพบริเวณบ้านว่าดินมีการทรุดตัวหรือไม่

            –    ตรวจเช็คว่าบริเวณข้างเคียงมีการขุดบ่อหรือสระใกล้กับตัวบ้านจนอาจจะทำให้บ้านทรุดได้หรือไม่

            –    ตรวจสอบผนังฝ้าเพดานของบ้านว่ามีการชำรุดหรือเวลาหน้าฝนมีการบวมพองหรือไม่

  • ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร

            –    ตรวจสอบว่าโครงสร้างเสาและคานสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยขนาดไหน ตั้งฉากกับพื้นหรือไม่ไม่แอ่นเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

            –    ตรวจเช็ครอยร้าวในคานและเสา หากพบว่าเป็นรอยร้าวที่เกิดจากเนื้อคอนกรีตซึ่งเป็นโครงสร้างข้างในของคานและเสา ไม่ใช่แค่รอยร้าวของปูนฉาบที่ผิวหน้า ควรปรึกษาหรือสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • ตรวจสอบงานระบบ

            –    ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภคต่างว่ามีปัญหาหรือไม่ เช่น ระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า ว่ามีการเสื่อมสภาพหรือระบบมิเตอร์ยังทำงานได้อย่างปกติดีหรือไม่

.

3.    สภาพบ้านโดยรวม + ราคาและเงื่อนไข

        เรื่องที่ต้องคำนึงมากๆเลยอีกหนึ่งข้อ  คือ สภาพบ้านและราคา มีความคุ้มค่าเหมาะสมที่จะซื้อจะขาย สามารถตรวจเช็คราคาบ้านได้ที่ http://www.tooktee.com ได้ ส่วนในเรื่องสัญญาซื้อขายเงื่อนไขแต่ละข้อได้อ่านครบถ้วนชัดเจนแล้วหรือไม่เพราะการซื้อบ้านมือสองนั้นต้องศึกษาให้มากกว่าการซื้อบ้านมือหนึ่งเป็นอย่างมาก  ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะโดน “ย้อมแมวขาย” ได้ นอกจากนี้ การซื้อบ้านมือสองต้องระวังเรื่องเอกสารต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ อาทิ

  • สัญญาจะซื้อจะขาย โดยตรวจสอบชื่อของผู้ขายว่าเป็นชื่อเดียวกับเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือไม่
  • กรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินโดยต้องมีการตรวจสอบข้อมูลโฉนดที่ดินว่ามีชื่อผู้ใดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
  • ขอบเขตของที่ดินตามโฉนด อาจจะไม่ใช่การดูด้วยตาเปล่า ควรต้องมีการจ้างเจ้าหน้าที่รังวัดมาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนได้

        รวมไปถึงข้อตกลงที่ไม่ได้อยู่ในสัญญาและอาจจะตกหล่นไปได้ เช่น ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ขายจะโอนให้แก่ผู้ซื้อ เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหลากหลายประเด็นให้พิจารณา แต่อย่างไรก็ตามทางที่ดีที่สุดควรศึกษาและตรวจเช็คในเรื่องต่าง ๆ ให้ดีก่อนที่จะตกลงปลงใจ ที่จะซื้อขายเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดตามมาทีหลัง ก่อนที่จะซื้อขายกันควรจะทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งสองฝ่ายและควรขอข้อมูลติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายด้วย เพื่อป้องกันการผิดพลาดและปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง

สามารถ หาบ้านมือหนึ่งและมือสองได้ที่ www.tooktee.comไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว แค่กดเป็นเพื่อนกับ LINE @tooktee หรือ กดถูกใจเพจเฟสบุ๊ค tooktee เว็บไซต์อ้างอิง : https://www.tooktee.com/content/detail/322


#บ้านมือสอง #ซื้อบ้านมือสอง #บ้านมือสองราคาถูก #ขายบ้านมือสอง #ขายบ้าน

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง ค่าจำนอง ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากรแสตมป์

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง

               การซื้อบ้านมือสองด้วยวิธีซื้อโดยตรงจากคนขายนั้น มีหลายๆ ประเด็นที่เราควรทราบก่อนการตัดสินใจซื้อ ซึ่งได้แก่

               • การตรวจสอบโฉนด ว่ามีสถานะเป็นอย่างไร ปลอดภาระหรือติดจำนองอยู่ และที่สำคัญควรตรวจเช็กว่าผู้ขายเป็นเจ้าของจริงๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอก โดยก่อนจ่ายเงินมัดจำและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อควรตรวจสอบโฉนดที่ผู้ขายนำมาให้ หากโฉนดเป็นสำเนาควรดูว่า ได้มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินหรือไม่และระบุวันที่รับรองตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งนี้การคัดสำเนาโฉนดเจ้าของโฉนดซึ่งก็คือผู้ขายสามารถไปดำเนินการเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปแทนก็ได้ โฉนดที่ขอคัดจากสำนักงานที่ดินจะมีเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมระบุวันที่รับรองไว้ในสำเนาโฉนดฉบับนั้น หรืออีกวิธีในการตรวจสอบโฉนดในกรณีที่ยื่นกู้ซื้อบ้านคือการส่งประเมินราคากับธนาคารก็ได้

               • การเตรียมเงินส่วนต่างให้พร้อม เพราะราคาบ้านมือสองอาจมีราคาสูงจากการตกแต่งบ้านให้พร้อมเข้าอยู่ หรือทำเลดี และเนื่องจากการกู้ซื้อบ้านมือสองโดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย(เลือกที่ต่ำกว่า) เท่ากับว่าผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินก้อนไปจ่ายให้กับผู้ขายในวันโอนบ้านอยู่ที่ประมาณ 20% ของราคาซื้อขาย ซึ่งต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการที่สามารถผ่อนดาวน์ไปได้เรื่อยๆ ก่อนการยื่นกู้จริง 

               • ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนี้

          o ค่าใช้จ่ายการซื้อ ได้แก่?

               – ค่าจำนอง 1% ของวงเงินกู้ (ในกรณีที่กู้เงิน)

          o ค่าใช้จ่ายการขาย ได้แก่

               – ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยใช้ราคาบ้านจากราค?าประเมินของสำนักงานที่ดิน หักด้วยค่าใช้จ่ายตามที่กรมสรรพากรกำหนด แล้วนำมาคำนวณด้วยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่ยกเว้นเงินได้ 150,000 บาทแร?ก

               – ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) แต่ทั้งนี้หากถือครองบ้านเกิน 5 ปี(ดูวันที่หลังโฉนด) หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือบ้านที่ขายได้รับมรดกมา ก็จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

               – ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) โดยจะเสียค่าอากรแสตมป์ในกรณีที่ไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ??

***นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมโอน 2% ของราคาประเมินสำนักงานที่ดิน ซึ่งเกิดขึ้นจากการซื้อขาย โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ที่ตกลงกันว่าจะจ่ายกันอย่างไร เช่น ผู้ซื้อผู้ขายแบ่งจ่ายคนละครึ่ง เป็นต้น

ซื้อบ้านมือสอง
บ้านมือสอง
กู้ซื้อบ้าน 
ภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีเงินได้หัก
ค่าอากรแสตมป์
ค่าจำนอง

เว็บไซต์อ้างอิง : https://www.tooktee.com/content/detail/2031

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง ค่าจำนอง ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากรแสตมป์

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง

               การซื้อบ้านมือสองด้วยวิธีซื้อโดยตรงจากคนขายนั้น มีหลายๆ ประเด็นที่เราควรทราบก่อนการตัดสินใจซื้อ ซึ่งได้แก่

               • การตรวจสอบโฉนด ว่ามีสถานะเป็นอย่างไร ปลอดภาระหรือติดจำนองอยู่ และที่สำคัญควรตรวจเช็กว่าผู้ขายเป็นเจ้าของจริงๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอก โดยก่อนจ่ายเงินมัดจำและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อควรตรวจสอบโฉนดที่ผู้ขายนำมาให้ หากโฉนดเป็นสำเนาควรดูว่า ได้มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินหรือไม่และระบุวันที่รับรองตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งนี้การคัดสำเนาโฉนดเจ้าของโฉนดซึ่งก็คือผู้ขายสามารถไปดำเนินการเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปแทนก็ได้ โฉนดที่ขอคัดจากสำนักงานที่ดินจะมีเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมระบุวันที่รับรองไว้ในสำเนาโฉนดฉบับนั้น หรืออีกวิธีในการตรวจสอบโฉนดในกรณีที่ยื่นกู้ซื้อบ้านคือการส่งประเมินราคากับธนาคารก็ได้

               • การเตรียมเงินส่วนต่างให้พร้อม เพราะราคาบ้านมือสองอาจมีราคาสูงจากการตกแต่งบ้านให้พร้อมเข้าอยู่ หรือทำเลดี และเนื่องจากการกู้ซื้อบ้านมือสองโดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย(เลือกที่ต่ำกว่า) เท่ากับว่าผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินก้อนไปจ่ายให้กับผู้ขายในวันโอนบ้านอยู่ที่ประมาณ 20% ของราคาซื้อขาย ซึ่งต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการที่สามารถผ่อนดาวน์ไปได้เรื่อยๆ ก่อนการยื่นกู้จริง 

               • ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนี้

          o ค่าใช้จ่ายการซื้อ ได้แก่?

               – ค่าจำนอง 1% ของวงเงินกู้ (ในกรณีที่กู้เงิน)

          o ค่าใช้จ่ายการขาย ได้แก่

               – ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยใช้ราคาบ้านจากราค?าประเมินของสำนักงานที่ดิน หักด้วยค่าใช้จ่ายตามที่กรมสรรพากรกำหนด แล้วนำมาคำนวณด้วยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่ยกเว้นเงินได้ 150,000 บาทแร?ก

               – ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) แต่ทั้งนี้หากถือครองบ้านเกิน 5 ปี(ดูวันที่หลังโฉนด) หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือบ้านที่ขายได้รับมรดกมา ก็จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

               – ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) โดยจะเสียค่าอากรแสตมป์ในกรณีที่ไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ??

***นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมโอน 2% ของราคาประเมินสำนักงานที่ดิน ซึ่งเกิดขึ้นจากการซื้อขาย โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ที่ตกลงกันว่าจะจ่ายกันอย่างไร เช่น ผู้ซื้อผู้ขายแบ่งจ่ายคนละครึ่ง เป็นต้น

ซื้อบ้านมือสอง
บ้านมือสอง
กู้ซื้อบ้าน 
ภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีเงินได้หัก
ค่าอากรแสตมป์
ค่าจำนอง

เว็บไซต์อ้างอิง : https://www.tooktee.com/content/detail/2031